1. กราฟิกด้านล่างพาร์
เราเริ่มต้นด้วยหนามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเกมใหม่: กราฟิกของเกม Game Freak ไม่เคยมีตาที่ดีสำหรับความยอดเยี่ยมของกราฟิกตั้งแต่เปลี่ยนไปใช้ 3D แต่เห็นได้ชัดว่าสตูดิโอไม่ใส่ใจที่จะปรับปรุงสิ่งนี้เช่นกัน เนื่องจากเกมถูกสร้างขึ้นสำหรับสวิตช์ จึงมีการปรับปรุงเล็กน้อยในสไตล์ศิลปะที่ชวนให้นึกถึงซิมส์เล็กน้อย
โมเดลตัวละครและโมเดลโปเกมอนยังคงดำเนินต่อไป เฉพาะในพื้นหลังที่คุณสังเกตเห็นว่าโปเกมอนสการ์เล็ตและไวโอเล็ตน่าเกลียดแค่ไหน สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลงานชิ้นเอกของกราฟิกถ้าเป็นเกม GameCube
แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นเช่นนั้นและกราฟิกก็ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เป็นไปได้จริงบน Nintendo Switch เกมอย่าง Xenoblade Chronicles 3 ดูเป็นปรากฎการณ์ในแง่ของสวิตช์ เมื่อเทียบกับเกมนั้น Game Freak น่าจะละอายกับรูปลักษณ์ของ Pokémon Scarlet & Violet
2. ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า
เมื่อโปเกมอนเจเนอเรชั่นใหม่เริ่มต้นขึ้น คุณแทบจะเดิมพันได้เลยว่าจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่จะมารีเฟรชเกม ใน Scarlet & Violet กลไกนี้คือปรากฏการณ์ Terestal สิ่งนี้จะเปลี่ยนประเภทของโปเกมอนในขณะที่การออกแบบสามารถเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย
ฟังดูคุ้นเคยและชวนให้นึกถึงกลไกก่อนหน้านี้ ตัวอย่างเช่น Sword & Shield รู้จักรูปแบบ Dynamax ที่ทำให้โปเกมอนแข็งแกร่งขึ้น แปลงร่างใหม่ ในขณะที่คุณสามารถใช้กลไกพิเศษนี้ได้เพียงครั้งเดียวระหว่างการต่อสู้ เราเห็นเช่นเดียวกันผ่าน Mega Evolutions ใน X & Y
อันที่จริง Game Freak เล่นกลซ้ำๆ กับทุกเจเนอเรชั่น แต่สร้างป้ายกำกับใหม่ ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาไม่ต้องการที่จะพัฒนาซีรีส์นี้ต่อไปด้วยกลไก แต่ต้องการดึงขนแกะมาเหนือสายตาของผู้เล่นในราคาถูก มันเหมือนกับได้มันฝรั่งทอดหนึ่งชาม แต่ซอสจะสลับกันระหว่างมายองเนสกับแบบที่มีไขมัน 0 เปอร์เซ็นต์ ท้ายสุดคุณยังโดนมันเยิ้มเหมือนเดิม
3. โปเกมอน Paldean
พูดถึงทริกซ้ำ นั่นคือสิ่งที่ Game Freak ทำกับ Paldean Pokémon ตัวใหม่ Game Freak แต่ละเจเนอเรชั่นจาก Sun & Moon เลือกที่จะเพิ่มรูปแบบเฉพาะของโปเกมอนที่คุ้นเคยซึ่งมีเฉพาะในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง โดยมีระดับความสำเร็จที่แตกต่างกันจนถึงตอนนี้
สำหรับ Scarlet & Violet กลอุบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าในกรณีนี้อาจจะดูดีขึ้นเล็กน้อย จนถึงปัจจุบัน Game Freak มักจะฉวยโอกาสสร้างโปเกมอนหลายแบบที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม เป็นผลให้เกิดความรักครั้งใหม่สำหรับโปเกมอนรุ่นเก่าที่สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้แม้จะขี้เกียจเล็กน้อยในส่วนของผู้พัฒนาก็ตาม
4. ยิมไม่ปรับขนาด
คุณสมบัติใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในโปเกมอน สการ์เล็ต & ไวโอเล็ต คือคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณจะแข่งขันกับยิมอย่างไร เมื่อมองแวบแรก มันดูวิเศษมาก ถึงอย่างนั้น แฟนๆ ก็พูดถึงมันมาหลายปีแล้ว
ในทางกลับกัน Game Freak ก็มักจะก้าวไปข้างหน้าเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น คุณสามารถทำยิมให้สำเร็จในแบบที่คุณต้องการ แต่ความยากจะไม่เพิ่มขึ้นตามระดับของคุณเอง นั่นหมายความว่าโรงยิมบางแห่งมีโปเกมอนที่อ่อนแอกว่าที่อื่นๆ ซึ่งหมายความว่ามีเส้นทางที่สมเหตุสมผลสำหรับโรงยิมที่จะใช้
“ไม่มีเส้นทางเฉพาะสำหรับยิม คุณสามารถหาผู้นำยิมที่แข็งแกร่งกว่าอย่างมีสติหรือเพียงแค่หยุดที่โรงยิมที่อยู่ในหมู่บ้านที่คุณผ่านไประหว่างการผจญภัยของคุณ”
คุณยังสามารถเลือกเอาชนะยิมได้ด้วยโปเกมอนที่แข็งแกร่งที่สุดก่อน แต่การทำเช่นนี้จะเป็นการยิงตัวเองที่เท้า คุณไม่มีความท้าทายมากนักหลังจากที่คุณเอาชนะยิมที่ยากที่สุด ถ้ายังต้องทำยิมที่ง่ายที่สุด แทบจะหลับไปเลย สู้ๆ
5. ประสิทธิภาพ
เราเปลี่ยนเหตุผลสุดท้ายที่ Pokémon Scarlet & Violet จะทำให้ผิดหวัง: การแสดง เกมโปเกมอนได้รับผลกระทบจากประสิทธิภาพที่ไม่ดีบนสวิตช์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับการเล่นออนไลน์ เช่น ใน Sword & Shield จากนั้นเกมก็จะไม่ทำงานเลยและตัดสินโดยภาพของ Scarlet & Violet การแสดงดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นมากนัก
เป็นที่ยอมรับว่ายังเร็วไปหน่อยที่จะเรียกประสิทธิภาพเป็นลบ เพราะเกมยังไม่ออก ภาพที่เราเห็นยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ดังนั้นประสิทธิภาพจะดียิ่งขึ้นไปอีก น่าเสียดายที่เรามีความเชื่อมั่นใน Game Freak น้อยมากในเรื่องนี้ และสตูดิโอก็ทำให้มันเป็นเช่นนั้น
ตัวอย่างเช่น Pokémon Legends Arceus วิ่งได้แย่มากจนโปเกมอนที่มองออกไปไกลๆ ในโลกไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสม เปรียบเทียบสิ่งนี้กับ Xenoblade Chronicles 3 และชัดเจนว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ คำถามเดียวคือ Game Freak มีความสามารถเพียงพอที่จะปรับปรุงเรื่องนี้ได้หรือไม่